หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สัตว์นรกในด้านสังคมศาสตร์


สัตว์นรกในด้านสังคมศาสตร์
นรก คือ ดินแดนแห่งความเร่าร้อน เร่งรีบ แออัดไปด้วยสัตว์นรก(ผู้อยู่อาศัย) เต็มไปด้วยแสงสีจากเปลวเพลิงและกลุ่มควันจากมลภาวะที่ทำลายและกัดกินร่างของสัตว์นรกจากทั้งภายนอกและภายใน  โดยมีการแบ่งระดับความรุนแรง(เขตปกครอง)จากเบาไปหนัก เป็น๓ส่วนคือ
    ๑.ยมโลก-นรกบ้านนอก(ส่วนท้องถิ่น)/(ความเป็นเปรต๑๐๐%)
    ๒.อุสสุทธนรก-นรกในเมือง(ส่วนภูมิภาค)/(ความเป็นสัตว์นรก๕๐%เปรต๕๐%)
    ๓.มหานรก-นรกเมืองหลวง(ส่วนกลาง)/(ความเป็นสัตว์นรก๑๐๐%)

๑.ยมโลก-นรกบ้านนอก(ส่วนท้องถิ่น/ประตูสู่เปรตโลก/สังคมอันเบาบางจากทุกข์)
กลีบนอกของดอกไม้นรก มีทั้งหมด๑๐เขต ดังนี้
๑.โลหกุมภีนรก(Lohakumbhi) เป็นหม้อเหล็ก(ปัจจุบันแปลว่า กระทะทองแดง)ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยน้ำทองแดงเดือดพล่านสัตว์นรกจะถูกต้มเคี่ยวตลอดเวลา จนสำลักน้ำทองแดง ขึ้นจากหม้อเหล็กนั้นไม่ได้ เพราะนายนิรบาลจะกันไว้ไม่ให้ขึ้น แต่สามารถต่อรองได้หรือเรียกร้องได้(เพราะนายนิรยบาลก็คือ สัตว์นรกที่มีบุญ เป็นเวมานิกเปรตไม่ก็มหิทธิกาเปรต หัวอกเดียวกันคงเข้าใจ แต่ถ้าเป็นโจทก์กันก็ไม่แน่ อาจถีบส่งกันลงไปเลยทีเดียว) ปัจจุบันอยากเห็นนรกขุมนี้ให้ไปดูบรรดาพนักงานบริษัททั้งหลายที่ต่างก็แหวกว่าย(เวียนว่าย)อุดอู้อยู่ในห้องทำงาน/สำนักงานสี่เหลี่ยมแคบๆ นั่งฟังเจ้านาย(นายนิรยบาล)ก่นด่าโขกสับสารพัด ไม่รู้ว่าจะเครียดจนสำลักน้ำทองแดง(เหล้า)ตายวันไหน จะออกไปไหนทีก็แสนลำบาก ลาป่วย ลากิจก็แสนจะยาก(แต่ก็ยังลาได้) ต้องทนทำงาน(รับกรรม)จนกว่าจะเกษียณ(สัตว์นรกไม่มีการเกษียณก่อนกำหนด ต้องอยู่จนกว่าจะเกษียณอายุ(หมดกรรม)กันไปข้าง แต่ในยมโลกนี้กรรมค่อนข้างเบาบางมาก(ระบบ)ไม่ยุ่งยากอย่างในอุสสุทธนรกและมหานรกที่(ระบบ)จะซับซ้อนและยุ่งยากกว่านี้)จะว่าไประบบการศึกษาในบางสถาบันก็เป็นแบบนี้(นั่งเรียน(ยัด)กันอยู่ในห้องแคบๆห้องละกว่าครึ่งร้อย มีนิรยบาล(อาจารย์!?)นั่งเฝ้ากดดันให้เด็กเครียดทั้งยามปกติและพรีเซนต์)โอ!นรกในการทำงาน(เรียน)
ในยมโลกนี้สัตว์นรกยังมีโอกาสได้รับส่วนบุญบ้าง ถ้าตาสว่างไวอาจพ้นจาก(สังคม)ยมโลกเร็วขึ้น
๒.สิมพลีนรก(Simbli) เต็มไปด้วยป่างิ้วนรก  มีหนามแหลมคมเป็นกรดยาวประมาณ๑๖องคุลีนรกแห่งการคบชู้ (พวกชอบนอกใจแล้วโกหก)นายนิรยบาลจะคอยต้อนให้สัตว์นรกปีนขึ้นไปบนต้นงิ้วที่ไม่มีหนาม แต่เมื่อกายของสัตว์นรกแนบกับต้นงิ้ว จะมีกลไกดีดให้หนามยาวประมาณ๑๖องคุลีพุ่งออกมาทิ่มสัตว์นรก(ต้นงิ้วที่ไม่มีหนามเพื่อหลอกให้ปีน เกิดจากการโกหกหลอกลวงเพื่อนอกใจของตัวสัตว์นรกเอง) แต่ไม่ปีนก็ไม่ได้เพราะจะมีสุนัขนรก(เกิดจากความชอบลอบกัดของตัวสัตว์นรก)ออกมากัด แต่ถ้าปีนขึ้นไปจะเจอกับกาปากเหล็ก(เกิดจากความชอบฉวยโอกาสของตัวสัตว์นรก)
๓.อสินขนรก(Asinakha) สัตว์นรกจะมีเล็บมือเล็บเท้าแหลมยาว(คม)เป็นหอกดาบ ศาสตราวุธคล้ายปัพพตังคาเปรต สัตว์นรกเหล่านี้เหมือนคนบ้าวิกลจริต บ้างนั่ง บ้างยืน เอาเล็บมือถากตะกุยเนื้อหนังของตนและสัตว์นรกอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกินเป็นอาหารตลอดเวลา(สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและสังคมตลอดเวลา)นายนิรยบาลก็ปล่อยไปจะทำอะไรก็ทำ สัตว์นรกไม่กล้าแตะอยู่แล้ว ยืนคุมอย่างเดียว สบายไป(นายนิรยบาลยังเอาอยู่ อาจห้ามไม่ให้ตีกันบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่ทำหน้าที่)
๔.ตามโพทกนรก(Tamabodhaka) มีหม้อเหล็กต้มน้ำทองแดงร้อนระอุอยู่ตลอดเวลาสัตว์นรกคอแห้งถูกนายนิรยบาลกรอกปากด้วยน้ำทองแดง ให้ไหม้ยันไส้(ทำลายตับ ไต และอวัยวะภายในอื่นๆ) ปัจจุบันอยากเห็นนรกขุมนี้ให้ไปดูตามผับ ตามเธค แถมนายนิรบาลก็ไม่ต้องเมื่อย เพราะสัตว์นรกกรอกน้ำทองแดงเองอีกต่างหาก นายนิรยบาลแค่ถือขวดน้ำทองแดงรอเฉยๆ มันหิวเมื่อไหร่ก็เรียก(ไปเสิร์ฟ)เอง
๕.อโยคุลนรก(Ayogula) เต็มไปด้วยอาหารโอชะ ดูน่ากิน เวลาสัตว์นรกหิวนายนิรยบาลจะประเคน(เสิร์ฟ)อาหารเหล่านั้นให้สัตว์นรกผู้หิวโหยถึงปาก แต่เมื่อสัตว์นรกกลืนอาหารเหล่านั้นลงไป มันจะกลายเป็นก้อนเหล็กแดงร้อนระอุ(ก้อนมะเร็ง) เผาผลาญทำลายตับ ไต และอวัยวะภายในอื่นๆ ปัจจุบันอยากเห็นนรกขุมนี้ให้ไปดูตามร้านค้า หรือ ศูนย์รับบริจาค ที่มีการปลอมปนอาหารเสีย หมดอายุบูดเน่า  รวมถึงการใช้สารเคมีอันตรายบางชนิดทำให้อาหารดูน่ากิน เพื่อเอากำไร(หรือเอาหน้า)
๖.ปิสสกปัพพตนรก(Pissakapabbata) มีภูเขายนต์ลูกใหญ่(ทำงานระบบอัตโนมัติ)อยู่ทุกทิศทาง เคลื่อนที่ไม่หยุดหย่อน กลิ้งไปมาบดขยี้เหล่าสัตว์นรกแออัดอยู่ภายในให้บี้แบนกระดูกแตกป่นละเอียดจนตายแล้วฟื้นขึ้นมาอีก สัตว์นรกจะถูกบดขยี้อีกจนตายเรื่อยไปจนหมดกรรมของตน ปัจจุบันอยากเห็นนรกขุมนี้ให้ไปดูช่วงเวลาเร่งรีบเช้า-เย็นบนรถประจำทาง กระเป๋ารถ(นายนิรยบาล)ก็ว่า ชิด ชิดใน ชิดเข้าไป ชิดกันซะจนจะรวมเป็นเนื้อเดียวกันได้แล้ว ก็ยังจะให้ชิดอยู่นั่น กระเป๋ารถก็เห็นนะแต่ไม่สน(ยิ่งวันไหนฝนตกด้วยละก็ข้างนอกเย็น คนนั่งเย็น แต่คนยืนจะตาย ทั้งร้อน ทั้งอบ แล้วไหนจะมลภาวะในอากาศ(กลิ่น)อีก โอ!พระพุทธเจ้าช่วย)
๗.ธุสนรก(Dhusa) สระมีน้ำใสสะอาด สัตว์นรกที่มีความกระหายน้ำมากจะดื่มกินเข้าไป แต่น้ำนั้นกลายเป็นแกลบ เป็นข้าวลีบลุกเป็นไฟเผาไหม้ท้องและลำไส้ น้ำ(ที่ดู)ใสสะอาดนี้ ก็คือ บรรดาเครื่องบริโภคที่ปนเปื้อนหรือถูกปลอมปนทั้งหลาย ที่ผู้ค้า(นายนิรยบาล)นำมาขายเพื่อหวังผลกำไร
๘.สีตลนรก(Sitala) เต็มไปด้วยน้ำแข็งและลมเย็นยะเยือกสัตว์นรกที่มาเกิดจะสูดเอาอากาศเข้าไป อากาศนั้นจะจับตัวเป็นน้ำแข็งในร่างกายแล้วก็จะฟื้นขึ้นมาก็จะสูดเอาอากาศเข้าอีกเรื่อยไปจนหมดกรรมของตน(ก็ที่หนาวตายกันนั่นแหละ/ทนหนาวในห้องแอร์ก็น่าจะใช่)
๙.สุนัขนรก(Sunakha) นรกนี้เป็นนรกที่เต็มไปด้วยการลอบกัด นรกนี้มีสุนัขนรก ซึ่งมี 5 พวกคือ หมานรกดำ หมานรกเหลือง หมานรกแดง นายนิรยบาลจะปล่อยให้หมานรกเหล่านี้ไล่ขบกัด ตรงลูกตา ปากและส่วนต่างๆ ได้รับทุกขเวทนาจากผลกรรมชั่วทางวาจา(สุนัขนรกเกิดจากความชอบลอบกัดของตัวสัตว์นรก)
๑๐.ยันตปาสาณนรก(Yantapanasan) ภูเขายนต์๒ลูก(กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม)เคลื่อนกระทบกันตลอดเวลา(แบบเครื่องบดปลาหมึก) สัตว์นรกจะถูกภูเขาบีบกระแทก(กฎหมายกดดัน)รีดจนเละ ภูเขายนต์ทั้ง๒ลูกนี้นายนิรยบาลจะเป็นผู้บังคับควบคุมให้)เคลื่อนกระทบกันเพื่อบด(กดดัน)สัตว์นรก
๒.อุสสุทธนรก-นรกในเมือง(ส่วนภูมิภาค/สังคมอันกัดกินตนเองจากภายใน)
        กลีบในของดอกไม้นรก มีทั้งหมด๔เขต ดังนี้
๑.คูถนรก(Gutha) สัตว์นรกจะจมอยู่ในบ่ออุจจาระเน่า(อุจจาระเน่า คือ กฎหมายที่ไม่ได้ความ ไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงในสังคม ทำให้สังคมเดือดร้อน) ในบ่อจะมีหนอนปากเหล็ก เข้าไปกัดกินทั้งเนื้อและกระดูกตลอดจนอวัยวะภายในของสัตว์นรกทั้งหมด(หนอนปากเหล็ก คือ อาหารเสีย อาหารหมดอายุ อาหารปนเปื้อน)นายนิรยบาลจะแจกจ่าย(ขาย/บริจาค)หนอนปากเหล็กให้สัตว์นรกทุกตน(แต่มากน้อยไม่เท่ากัน)
๒.กุกกุลนรก(Kukkula) มีขี้เถ้าร้อนระอุปะปนในอากาศ สัตว์นรกจะสูดเอาขี้เถ้าร้อนระอุในอากาศนั้นเข้าไปทำลาย(ปอด)อวัยวะภายในจนร่างกายไหม้ยับย่อยละเอียดเป็นจุณ(ขี้เถ้าร้อนระอุปะปนในอากาศ คือ มลภาวะทางอากาศ เช่น ฝุ่นละอองและหมอกควันในอากาศ หรือ มลพิษทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ จากโรงงาน จากท่อไอเสียรถฯลฯ) นายนิรยบาลมีสิทธิพิเศษ(เจ้าพนักงาน/ข้าราชการนรก)ไม่เป็นไร
๓.อสิปัตตวันนรก(Asipattavana) ป่าไม้ที่มีผลสุกน่ากินเต็มต้น นายนิรยบาลจะปล่อยให้สัตว์นรกปีนเก็บผลไม้ได้เต็มที่(กินแบบบุฟเฟ่ต์) แต่เมื่อสัตว์นรกปีนเก็บผลไม้ หรือกินผลไม้ ระบบเซนเซอร์และกลไกในต้นไม้จะทำงานเปลี่ยนใบและผลเหล่านั้นเป็นอาวุธยนต์ต่างเข้าทำลายสัตว์นรกทั้งภายนอก(พวกที่ปีนเก็บผลไม้)และภายใน(พวกกินผลไม้) ต้นไม้ในนรกขุมนี้จะมีระบบคล้ายกับ งิ้วนรกใน สิมพลีนรก(คือ โกหก หลอกลวงว่าไม่มีอะไร เพื่อให้สัตว์นรกปีนขึ้นไป) ปัจจุบันก็ยังมี คือ พวก(นายนิรยบาล)ที่ชอบหลอกขายอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ สารเคมี จำนวนมหาศาล(ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในอาหารเพื่อทำให้ดูน่ากิน ถึงจะบอกว่าควบคุมปริมาณแล้วก็เถอะ กินเข้าไปมันก็สะสม ตายอยู่ดี รับกรรมกันไป)
๔.เวตตรณีนรก(Vettarani) แม่น้ำใสน่าอาบว่าย ดื่มกิน เมื่อสัตว์นรกที่มีบาดแผล(จากสุขภาพ/สภาพสังคม)เห็นก็จะรีบวิ่งเข้าหาด้วยหวังว่าจะดับร้อน ดับกระหาย พวกที่กินน้ำจะถูกเผาทำลายจากภายใน พวกที่ลงอาบหรือว่ายน้ำเล่นผิวเนื้อร่างกายจะถูกไฟเผา นายนิรยบาลจะปล่อยให้สัตว์นรกเล่นน้ำกันเต็มที่(สัตว์นรกตนใดไม่ยอมเล่นโดน) คล้ายกับอสิปัตตวันนรก คือ มีสารปนเปื้อนต่างๆในน้ำ ไม่ว่าจะน้ำกิน หรือ น้ำใช้(ดีไม่ดีพวก(นายนิรยบาล)นี้จะเอาน้ำจากขุมนี้ไปเสนอขายตามบ้านด้วย)
๓.มหานรก-นรกเมืองหลวง(ส่วนกลาง/สังคมอันปราศจากการหยุดพัก)
        ช่อดอกหรือศูนย์กลางนรก มีทั้งหมด๘เขต ดังนี้
๑. สัญชีวะ(Sanjiva) (เจริญ)รุ่งเรืองด้วยเปลวเพลิง สัตว์นรกขุมนี้จะถูกเหล่าอาวุธยนต์(ทำงานระบบอัตโนมัติ)ไล่ตามตลอดเวลา  หากสัตว์นรกพลาดท่าเสียทีจะถูกเหล่าอาวุธยนต์ไล่ตัดร่างจนตาย แต่ร่างที่ถูกตัดนั้น จะฟื้นตัวคืนสภาพเดิมได้อย่างรวดเร็วดุจมีร่างเป็น กายสิทธิ์ สัตว์นรกขุมนี้แม้จะถูกเหล่าอาวุธยนต์(กฎหมาย)ตัดร่าง(เอาผิด)จนตาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ฟื้นตัวคืนสภาพเดิมได้อย่างรวดเร็ว เหมือนไม่เคยถูกเหล่าอาวุธยนต์ตัดร่าง(ไม่เคยถูกกฎหมายเอาผิด)มาก่อน
๒.กาลสุตตะ(Kalsutta) ระหว่างที่สัตว์นรกในขุมนี้วิ่งไปมาเหมือนไร้สติจะถูกเส้นด้ายสีดำ(แสงเลเซอร์สีดำ)ที่ไม่ทราบที่มา ตีเส้นบนร่างกายและร่างกายจะถูกตัดตามเส้นนั้นเป็นท่อนๆเหมือนท่อนไม้ เส้นด้ายดำ(อิทธิพลมืด)นี้ นอกจากไม่ทราบที่มาแล้วยังไม่อาจทราบได้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่(แต่มาเป็นระยะๆ) สัตว์นรกที่ไม่ทราบชะตากรรมจะเดินไปสะดุดด้ายดำ(อิทธิพลมืด)ให้ขาขาดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
๓.สังฆาฏะ(Sanghata) ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาเหล็กลูกมหึมามีไฟลุกท่วมคอยกลิ้งเข้ากระทบกระแทกสัตว์นรกจนเหลวเป็นวุ้นเลือด (พวกชนแล้วหนี กฎหมายทำอะไรไม่ได้)
๔. โรรุวะ(Roruva) เต็มไปด้วยเสียงหวีดร้องของสัตว์นรกที่ถูกรมด้วยควันแก๊สพิษ(มลพิษปนเปื้อนจำนวนมหาศาล)ในอากาศ เมื่อสูดอากาศเข้าไปอวัยวะภายในจะถูกทำลาย สัตว์นรกจะช๊อคจากการสูดอากาศพิษนี้จนตายหรือหมดสติ แล้วจะฟื้นขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ(ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง ร้องไปก็เท่านั้น)
๕.มหาโรรุวะ(Maharoruva) เต็มไปด้วยเสียงแหกปากร้องของสัตว์นรกที่ถูกรมด้วยควันแก๊สพิษ(มลพิษปนเปื้อนจำนวนอภิมหาศาล)ในอากาศ นรกขุมนี้มีเสียงร้องดังยิ่งกว่าในโรรุวะเมื่อสูดอากาศพิษเข้าไปอวัยวะภายในจะถูกทำลาย แต่สัตว์นรกจะไม่ช๊อค ไม่หมดสติ และไม่ตาย!!! จึงต้องแหกปากร้องให้ลั่นเพราะทรมานเกินขีดจำกัดไปแล้วแต่ยังไม่หยุดทรมาน(นรกขุมนี้นอกจากไม่มีกฎหมายคุ้มครองแล้ว ยังร้องเรียนอะไรไม่ได้ด้วย! ต้องทนกันไป)
๖.ตาปนะ(Tapana) นรกขุมนี้สัตว์นรกจะต้องนั่งติดตรึงในหอกหลาวเหล็กแดงเพลิง ขยับไม่ได้เพราะถูกหอกหลาวตรึง แขน ขา สันหลัง ร่างกายแทบทุกส่วน ถ้าว่ากันจริงๆสัตว์นรกขุมนี้เป็นพวกขาดสารอาหาร(กินแต่พวกอาหารสังเคราะห์ กับ อาหารสำเร็จรูป) หมกมุ่นหน้าคอมฯ ไม่ยอมกินยอมนอน ไม่ค่อยจะกินอะไรที่มีประโยชน์ เน้นกินเร็วและสะดวกเข้าว่า(อย่าลืมว่านรก คือ สังคมแห่งการเร่งรีบ) นรกขุมนี้ปัจจุบัน น่าจะตรงกับโรค "คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม" (computer vision syndrome) หรือ"โรคซีวีเอส"คือ คนที่นั่งหลังแข็งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานเกิน๒-๓ชั่วโมง(บ้าเกมคอมฯ บ้าแชท) มักจะมีอาการปวดตา แสบตา ตามัว  ปวดคอ และบ่อยครั้งที่จะมีอาการปวดหัวร่วมด้วย อาการทางสายตาเหล่านี้เกิดจากการจ้องดูข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป รวมถึงอาการปวดหลัง(โดนตรึง)จากการนั่งที่ผิดท่า พวกที่นั่งเล่นเกมจนไหลตายหน้าคอมฯก็ใช่(ตายแล้วกฎหมายไม่คุ้มครองอีกต่างหาก)
๗.มหาตาปนะ(Mahatapana) นั่งทรมานนานยิ่งกว่าในตาปนะ พักก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้(คล้ายในมหาโรรุวะ) ได้แต่แหกปากร้องดังๆ(นอกจากกฎหมายไม่คุ้มครองแล้ว ยังร้องเรียนอะไรไม่ได้ด้วยเช่นกัน)
๘.อวีจิ(อเวจี)(Avici) เต็มไปด้วยความเร่าร้อน(ปัญหาชีวิต)นาๆประการไม่ได้หยุดหย่อน สัตว์นรกเหล่านี้จะทุกข์ยากเดือดร้อนตลอดชีวิต จะหนีหรือแก้ปัญหาชีวิตไม่ได้จนกว่าจะหมดกรรม(ตาย)
หมายเหตุ นายนิรยบาลนั้นจะมีอยู่ในยมโลกและอุสสุทธนรกเท่านั้น โดยมี พญายมราชเป็นประธานาธิบดีของเหล่านิรยบาล(ท่านเป็นทั้งเวมานิกเปรตและมหิทธิกาเปรต ควบ๒ตำแหน่ง เวลางานก็มาทำงาน เวลาอยู่วิมานก็ต้องกรอกน้ำทองแดง) ส่วนในมหานรกนั้นมีเสรีภาพเต็มที่ แบบ   อนาคีร์(Anarchy) หมายถึง แนวคิดการเมืองแบบไร้ผู้นำ ไม่มีรัฐบาล(นรก)คอยกำกับควบคุมดูแล สัตว์นรกทุกตนมีสิทธิเท่าเทียมกัน  ไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะใดๆ ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่มีการแบ่งชายแบ่งหญิง ไม่มีการแบ่งเด็กแบ่งผู้ใหญ่ รวมถึงไม่มีการลำดับอาวุโส สัตว์นรกทุกตนจึงอยู่กันเองโดยไร้ผู้นำ สัตว์นรกทุกตนมีสิทธิ์ถูกเผาผลาญโดยไฟนรกอย่างเท่าเทียมกัน ในมหานรกนอกจากต้องอยู่ใช้กรรมจนกว่าจะหมดกรรม(เกษียณอายุ)แล้ว ยังไม่มีสามารถลดโทษด้วย เพราะ ไม่มีนายนิรยบาลให้ต่อรองได้หรือเรียกร้องได้(มีแต่สัตว์นรกล้วนๆ)
สาเหตุที่นายนิรยบาลไม่เป็นอันตรายจากไฟนรกและการลงทัณฑ์ต่างๆ เพราะนายนิรยบาลเป็นพวกเวมานิกเปรตและมหิทธิกาเปรต เป็นพวกอยู่เหนือกฎ(หมาย)นรกทุกประการ(มีสิทธิพิเศษ)
แต่นายนิรยบาลจะกรอก(ดื่ม)น้ำทองแดงสลับกับลงทัณฑ์สัตว์นรก ช่วงหยุดพักจะอยู่ในวิมาน พญายมราชและนายนิรยบาลจะอาศัยอยู่ในเขตยมโลก ส่วนในอุสสุทธนรกจะมีแต่นายนิรยบาล

ไม่มีความคิดเห็น: